XTB ได้มีการประกาศผลประกอบการทางการเงินเบื้องต้นสำหรับไตรมาสแรกของปี 2022 ซึ่ง XTB ได้สร้างกำไรสุทธิรวมรายไตรมาสที่ทำลายสถิติในประวัติศาสตร์ของบริษัทอยู่ที่ 54.4 ล้านยูโร ปัจจัยสำคัญที่กำหนดผลลัพธ์ของบริษัทในไตรมาส 1/2565 ได้แก่: ความผันผวนสูงในตลาดการเงินและสินค้าโภคภัณฑ์เนื่องจากสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์เช่นเดียวกับจำนวนลูกค้าเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและจำนวนการซื้อขายที่สูงระดับหนึ่งซึ่งเห็นได้ชัดที่ปริมาณการซื้อขายเป็นล็อต
ภายใต้ปัจจัยเหล่านี้ ในไตรมาสแรกของปี 2565 XTB สร้างกำไรสุทธิ 54.4 ล้านยูโร เทียบกับ 19.5 ล้านยูโรในปีก่อน ซึ่งหมายความว่าเพิ่มขึ้น 34.9 ล้านยูโรต่อปี รายได้จากการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี 2565 อยู่ที่ 94.6 ล้านยูโร (Q1/2564 อยู่ที่ 40.8 ล้านยูโร) โดยมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยู่ที่ระดับ 28.2 ล้านยูโร (Q1/2564 อยู่ที่ 19.0 ล้านยูโร)
ในไตรมาสแรก XTB ได้ให้บริการกับลูกค้าใหม่ 55.3 พันราย ซึ่งหมายความว่าจำนวนลูกค้าทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 481.9 พัน เทียบกับ 316.7 พัน ณ สิ้นไตรมาสแรกของปีที่แล้ว สิ่งที่น่าสังเกตเป็นพิเศษคือจำนวนลูกค้าที่มีการซื้อขายโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น ในไตรมาสแรกมีจำนวน 149.8 พัน เทียบกับ 103.4 พัน ใน Q1/2564 และ 112.0 พัน โดยเฉลี่ยตลอดปี 2564 ซึ่งส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายในตราสาร CFD ที่เป็นล็อตเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด - ในไตรมาสแรก ได้เพิ่มขึ้นเป็น 1.56 ล้านล็อตจาก 1.12 ล้านในช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 (เพิ่มขึ้น 39.9%) เงินฝากสุทธิเพิ่มขึ้น 14.3% (จาก 208.1 ล้านยูโรใน Q1/2564 เป็น 237.8 ล้านยูโรใน Q1/2565)
- ผลประกอบการที่ดีในไตรมาสแรกแสดงให้เห็นว่ากลยุทธ์การสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งอย่างเป็นระบบมีความสำคัญและมีประสิทธิภาพเพียงใด - ฐานลูกค้าที่เพิ่มปริมาณการซื้อขายในช่วงที่ตลาดผันผวนสูงขึ้น นั่นส่งผลเป็นการเพิ่มจำนวนธุรกรรมและรายได้ของบริษัท การสร้างฐานลูกค้าเป็นกลยุทธ์พื้นฐานของแนวทางการขายและการตลาดของ XTB - ความคิดเห็นจาก Omar Arnaout (CEO ของ XTB)
เมื่อพูดถึงรายได้ของ XTB ในแง่ของกลุ่มตราสารที่ส่งผลตอบแทนมากสุดใน Q1/2565 นำโดย CFDs ดัชนี ส่วนแบ่งในโครงสร้างรายได้จากตราสารกลุ่มนี้ถึง 57.4% เทียบกับ 39.9% ในปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากความสามารถในการทำกำไรสูงของดัชนี US100 และ US500 ดัชนี DAX (DE30) ของเยอรมัน หรือ RUS50 ของรัสเซีย ประเภทสินทรัพย์ที่ทำกำไรได้มากที่สุดเป็นอันดับสองคือ CFD สินค้าโภคภัณฑ์ ส่วนแบ่งในโครงสร้างรายได้ใน Q1/2565 อยู่ที่ 30.2% เทียบกับ 53.8% ใน Q1/2564 ตราสารที่ทำกำไรได้มากที่สุดในกลุ่มนี้คือ CFD น้ำมัน ทองคำ และก๊าซธรรมชาติ รายได้จาก CFD ฟอเร็กซ์คิดเป็น 9.4% ของรายได้ทั้งหมด เทียบกับ 2.7% ในปีก่อนหน้า นอกจากนี้ XTB Group ยังพัฒนาธุรกิจของสถาบันภายใต้แบรนด์ X Open Hub เพื่อให้บริการสภาพคล่องและด้านเทคโนโลยีให้กับสถาบันการเงินอื่นๆ ใน Q1/2565 โดยรวมสร้างรายได้ให้บริษัทจำนวน 3.4 ล้านยูโร
ค่าใช้จ่ายการดำเนินงานในไตรมาส 1/2565 อยู่ที่ 28.2 ล้านยูโร และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 9.2 ล้านยูโร (19.0 ล้านยูโรใน Q1/2564) สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือต้นทุนในการทำการตลาดที่ถูกบันทึกไว้ โดยเพิ่มขึ้น 3.8 ล้านยูโร ทั้งนี้มาจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในแคมเปญการตลาดอย่างเข้มข้นในไตรมาสแรก เนื่องจากการพัฒนาธุรกิจแบบไดนามิกของบริษัท และด้วยเหตุนี้การจ้างงานจึงเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 3.4 ล้านยูโร ซึ่งถูกบันทึกในต้นทุนค่าตอบแทนและสวัสดิการพนักงาน
- สิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญคือการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า นั่นคือเหตุผลหลักที่เราพยายามปรับปรุงคุณภาพการบริการที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยแนะนำสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมให้กับลูกค้าที่เทรดกับ XTB เช่น แบบฟอร์ม W8-BEN ซึ่งช่วยให้สามารถลดภาษีจากเงินปันผลของสหรัฐฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเราได้นำมาแนะนำในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ในทางกลับกัน เราสังเกตว่าแนวโน้มความสนใจในการลงทุนนั้นเพิ่มขึ้นและกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง จำนวนนักลงทุนที่มีความประสงค์ในการลงทุนโดยไม่คำนึงถึงความผันผวนของตลาดกำลังเพิ่มขึ้นอย่างเป็นระบบ นั่นเป็นเหตุผลที่เรามุ่งเน้นอย่างมากในการเข้าถึงกลุ่มนักลงทุนที่มีโอกาสเป็นลูกค้าของเราซึ่งโดยรวมจะเป็นนักลงทุนใหม่ที่เริ่มทำการรู้จักกับตลาด เพื่อเป็นการสนับสนุนแนวคิดนี้ ทางเรามีการร่วมมือกับ Joanna Jędrzejczyk (อดีตแชมป์ UFC) โดยเธอเป็นแอมบาสซาเดอร์คนใหม่ของ XTB เรามุ่งที่จะดำเนินกิจกรรมการตลาดแบบเข้มข้นในไตรมาสแรกเพื่อส่งเสริมบริการการลงทุนที่เราได้นำเสนอต่อลูกค้า - Omar Arnaout
การเทรด CFDs บนพื้นฐานของเลเวอเรจนั้นมีความเสี่ยงสูง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน ดังนั้น กรุณาตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ทำความเข้าใจในความเสี่ยงทั้งหมดนั้นแล้ว