กำไรสุทธิ 103.4 ล้านยูโร และแนวโน้มในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- กำไรสุทธิรวมในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 103.4 ล้านยูโร ซึ่งมากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 623.2%
- ฐานลูกค้ามากกว่า 100,000 รายในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565
- ปริมาณการซื้อขายตราสาร CFD เพิ่มขึ้น 53.6% ต่อปี - จาก 1.99 ล้านเป็น 3.05 ล้านล็อต
- ผลกำไรต่อล็อตเพิ่มขึ้น 125%
XTB เพิ่งเผยแพร่ผลประกอบการทางการเงินเบื้องต้นสำหรับครึ่งแรกของปี 2565 XTB สร้างกำไรสุทธิอยู่ที่103.4 ล้านยูโร ซึ่งสูงกว่าช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ถึง 623.2 % สูงกว่าสถิติเดิมถึง 56.5% ส่งผลให้บริษัทมีประวัติความเป็นมาในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 เมื่อมีมูลค่า 66.1 ล้านยูโร ปัจจัยสำคัญที่มีส่งผลต่อระดับผลลัพธ์ของ XTB คือความผันผวนสูงอย่างต่อเนื่องในตลาดการเงินและสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งเกิดจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ตึงเครียดและฐานลูกค้าที่เติบโตอย่างเป็นระบบ
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 XTB สร้างกำไรสุทธิ 103.4 ล้านยูโร เทียบกับกำไร 14.3 ล้านยูโรเมื่อปีก่อน รายได้จากการดำเนินงานที่บันทึกไว้ในครึ่งแรกของปี 2565 มีมูลค่า 180.1 ล้านยูโร ซึ่งเพิ่มขึ้น 238.4% เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 2564 ในทางกลับกัน ต้นทุนการดำเนินงานอยู่ที่ 57.6 ล้านยูโร (ในครึ่งแรกของปี 2564 อยู่ที่ 35.9 ล้านยูโร)
ในไตรมาสที่สองของปี 2565 XTB ได้รับลูกค้า 45.7 พันราย รวมกับลูกค้าใหม่ 55.3 พันรายในไตรมาสแรก ดังนั้นลูกค้าใหม่รวมกว่า 101,000 ราย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน ในทั้งสองไตรมาส บริษัทบรรลุพันธสัญญาในการให้บริการกับลูกค้าใหม่โดยเฉลี่ยอย่างน้อย 40,000 รายทุกไตรมาส ในไตรมาสที่สองของปี 2565 จำนวนลูกค้าทั้งหมดเกินครึ่งล้าน โดยแตะ 525.3 พันคน ณ สิ้นเดือนมิถุนายน สิ่งที่น่าสังเกตเป็นพิเศษคือการเพิ่มขึ้นของจำนวนลูกค้าที่ใช้งานโดยเฉลี่ย ในช่วงครึ่งปีแรกมีจำนวน 149.8 พันราย เทียบกับ 105.0 พันรายในช่วงครึ่งแรกของปีที่แล้วและ 112.0 พันรายโดยเฉลี่ยตลอดปี 2564 ซึ่งแสดงถึงการเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขายตราสาร CFD (ล็อต) ในครึ่งปีแรกมีจำนวน 3.05 ล้านธุรกรรมเทียบกับ 1.99 ล้านในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564 (เพิ่มขึ้น 53.6%) มูลค่าเงินฝากสุทธิเพิ่มขึ้น 17.5% (จาก 354.4 ล้านยูโรในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 เป็น 416.5 ล้านยูโรในช่วงครึ่งแรกของปี 2565)
- ผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2565 แสดงให้เห็นว่า XTB ยังคงรักษาแนวโน้มการพัฒนาธุรกิจของตน เราเน้นอยู่เสมอว่ากลยุทธ์พื้นฐานของ XTB คือการสร้างฐานลูกค้าโดยให้ความสำคัญด้านเทคโนโลยีและคุณภาพสูงในการให้บริการกับลูกค้า การขยายฐานลูกค้าอย่างเป็นระบบหมายความว่าจำนวนธุรกรรมกับ XTB เพิ่มขึ้นและส่งผลทำให้รายได้เพิ่มขึ้น ความผันผวนอย่างต่อเนื่องของตลาดในไตรมาสที่สองส่งผลต่อการทำกำไรที่สูงขึ้นเช่นกัน - Omar Arnaout CEO XTB ได้กล่าว
เมื่อพูดถึงรายได้ของ XTB ในการให้บริการซื้อขายตราสารในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 จะเห็นได้ว่า CFD ดัชนีทำกำไรได้มากที่สุด ส่วนแบ่งในโครงสร้างรายได้จากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวถึง 48.9% นี่เป็นผลรวมจากการทำกำไรสูงของ CFDs ดัชนี US100 ดัชนีหุ้น DAX ของเยอรมัน (DE30) หรือดัชนี US500 ประเภทสินทรัพย์ที่ทำกำไรได้มากที่สุดเป็นอันดับสองคือ CFD สินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งส่วนแบ่งในโครงสร้างรายได้อยู่ที่ 34.8% และผลิตภัณฑ์ที่ทำกำไรได้มากที่สุดในกลุ่มนี้คือ CFD สินค้าโภคพัณฑ์แหล่งพลังงานเช่น ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันดิบ และทองคำ รายได้จาก CFD สกุลเงินคิดเป็น 13.4% ของรายได้ทั้งหมด โดยผลิตภัณฑ์ที่ทำกำไรได้มากที่สุดในกลุ่มนี้คือคู่สกุลเงิน EURUSD
ต้นทุนดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 อยู่ที่ 57.6 ล้านยูโร และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 21.7 ล้านยูโร (35.9 ล้านยูโรในครึ่งแรกของปี 2564) ส่วนที่สำคัญที่สุดคือค่าใช้จ่ายนทางการตลาดที่เกิดจากแคมเปญต่างๆ ที่เริ่มต้นในไตรมาสที่ 1 และต่อเนื่องในไตรมาสที่ 2 การพัฒนาของบริษัทยังเกี่ยวข้องกับจำนวนการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งค่าใช้จ่ายสำหรับเงินเดือนและสวัสดิการพนักงานเพิ่มขึ้น 7.0 ล้านยูโร
- ผลลัพธ์ที่ดีของ XTB ในการได้รับลูกค้าใหม่ บวกกับการขยายตัวในหลาย ๆ ตลาด เป็นการยืนยันว่า XTB กำลังพัฒนาตามเส้นทางที่ถูกต้องเพื่อไปสู่ระดับบริษัทการลงทุนชั้นนำของโลก การสร้างแบรนด์ระดับโลกนั้นต้องการกลยุทธ์ที่เร่งรัดมากขึ้น ไม่เพียงแต่เน้นที่ผลิตภัณฑ์และด้านเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังต้องพัฒนาการส่งเสริมในทุกตลาดที่มี XTB อยู่ด้วย นั่นคือเหตุผลที่เราจะดำเนินแคมเปญการตลาดต่อไปเพื่อส่งเสริมการลงทุนด้วยเครื่องมือที่สะดวกรวดเร็วเพื่อเข้าสู่ตลาดการเงินผ่านแพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยการวิเคราะห์ตลาดรายวันไปจนถึงข้อมูลการศึกษาตลาดจำนวนมาก เราจะยังคงขยายจำนวนรายการผลิตภัณฑ์ต่อไปเพื่อตอบสนองต่อสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงรวมถึงความคาดหวังจากลูกค้า - Omar Arnaout CEO XTB ได้กล่าว
การเทรด CFDs บนพื้นฐานของเลเวอเรจนั้นมีความเสี่ยงสูง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน ดังนั้น กรุณาตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ทำความเข้าใจในความเสี่ยงทั้งหมดนั้นแล้ว