XTB ทำสถิติรายไตรมาส
สร้างกำไรสุทธิถึง 64.4 ล้านยูโร และฐานลูกค้าใหม่กว่า 104 พันราย
- กำไรสุทธิรวมในไตรมาสแรกของปี 2023 อยู่ที่ 64.4 ล้านยูโร มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 19.9%
- จำนวนลูกค้าทั้งหมดเพิ่มขึ้น 46.1% ปีต่อปี แตะแตะระดับ 703.9 พันราย
- ปริมาณการซื้อขายในตราสาร CFD เพิ่มขึ้น 18.2% ปีต่อปี จาก 1.56 ล้านล็อตเป็น 1.85 ล้านล็อต
- การหาลูกค้าและกิจกรรมทางการตลาดที่เข้มข้นขึ้น
XTB เพิ่งเผยแพร่ผลประกอบการทางการเงินเบื้องต้นสำหรับไตรมาสแรกของปี 2023 ณ ตอนนี้ XTB สร้างสถิติกำไรสุทธิรายไตรมาสรวมที่ทำลายสถิติในประวัติศาสตร์ของบริษัทอยู่ที่ 64.4 ล้านยูโร ปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อระดับผลประกอบการของ XTB ในไตรมาสแรกของปี 2023 คือความผันผวนสูงอย่างต่อเนื่องในตลาดการเงินและสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งเกิดจากสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์หรือวิกฤตการธนาคารที่ตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้น กิจกรรมทางการตลาดมีผลกระทบอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งส่งผลให้จำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและกิจกรรมการทำธุรกรรมที่สูงของพวกเขา
ภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้ ในไตรมาส 1/2023 XTB สร้างกำไรสุทธิ 64.4 ล้านยูโร เทียบกับ 54.4 ล้าน ในปีก่อนหน้า ซึ่งนั้นหมายถึงการเพิ่มขึ้น 10.0 ล้านยูโร รายได้จากการดำเนินงานในไตรมาส 1/2023 อยู่ที่ 113.1 ล้านยูโร (ในไตรมาส 1/2022: 94.6 ล้านยูโร) โดยมีต้นทุนการดำเนินงานอยู่ที่ 39.2 ล้านยูโร (ไตรมาส 1/2022: 28.2 ล้านยูโร)
ในไตรมาสแรก XTB ได้ลูกค้าใหม่ 104.2 พันราย ซึ่งจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 703.9 พันราย เทียบกับ 481.9 พันราย ณ สิ้นไตรมาสแรกของปีที่แล้ว สิ่งที่น่าสังเกตเป็นพิเศษคือการเพิ่มจำนวนลูกค้าที่ใช้งานอยู่ ในไตรมาสแรกมีจำนวน 215.7 พันราย เทียบกับ 149.8 พันราย ในไตรมาส 1/2022 ซึ่งปริมาณการซื้อขายของลูกค้าในตราสาร CFD (ล็อต) เพิ่มขึ้นโดยในไตรมาสที่ 1 เพิ่มขึ้นเป็น 1.86 ล้านล็อตเทียบกับ 1.56 ล้านใน ช่วงเวลาเดียวกันของปี 2022 (เพิ่มขึ้น 18.2%) ความสามารถในการทำกำไรต่อล็อตในไตรมาส 1/ 2023 คือ 62 ยูโร (ไตรมาส 1/2022: 61 ยูโร)
เมื่อพูดถึงรายได้ของ XTB ในแง่ของประเภทตราสารที่มีบทบาดในการสร้างกำไรหลักในไตรมาสแรก ปี 2023 นั้นคือ CFD สินค้าโภคภัณฑ์ ส่วนแบ่งในโครงสร้างรายได้จากตราสารนี้สูงถึง 48.8% เทียบกับ 30.2% ในปีก่อนหน้า ในกรณีนี้ ตราสารที่ทำกำไรได้มากที่สุดของ CFD สินค้าโภคภัณฑ์คือ ก๊าซธรรมชาติและทองคำ ประเภทสินทรัพย์ที่ทำกำไรได้มากเป็นอันดับสองคือตราสาร CFD ดัชนี โดยส่วนแบ่งในโครงสร้างรายได้ในไตรมาสแรก ปี 2023 อยู่ที่ 45.3% เทียบกับ 57.4% ในไตรมาสแรก ปี 2022 ตราสารที่ให้ผลกำไรสูงสุดในกลุ่มนี้คือ CFD ดัชนี DAX ของเยอรมัน (DE30) และดัชนีสหรัฐอเมริกา US100 และ US500 รายได้จาก CFD ฟอเรกซ์อยู่ที่ 4.2% ของรายได้ทั้งหมด เทียบกับ 9.4% ในปีก่อนหน้า
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานในไตรมาสแรกของ 2023 อยู่ที่ 39.2 ล้านยูโร และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 11.0 ล้าน (28.2 ล้าน ในไตรมาส 1/ 2022) การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดถูกบันทึกไว้ในงบทำการตลาดซึ่งเพิ่มขึ้น 6.4 ล้านยูโร สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นในแคมเปญการตลาดที่ดำเนินการอย่างเข้มข้นในไตรมาสแรก เนื่องจากการพัฒนาแบบไดนามิกของบริษัท ส่งผลให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น ต้นทุนของเงินเดือนและผลประโยชน์ของพนักงานก็เพิ่มขึ้น 3.5 ล้านยูโร
ข้อมูลรายละเอียดโดยสรุปกิจกรรมของเครือ XTB ในไตรมาสที่ 1/2023 ตลอด รวมถึงผลประกอบการทางการเงินและการดำเนินงานเบื้องต้น [ที่นี่]
เกี่ยวกับ XTB:
XTB Group เป็นผู้ให้บริการระหว่างประเทศด้านผลิตภัณฑ์การค้าและการลงทุน บริการและ โซลูชั่นทางเทคโนโลยี XTB Group ได้รับอนุญาตและการดูแลควบคุมโดย Financial Services Commission (FSC) ในเบลีซ กว่า 18 ปี XTB Group ได้ให้บริการนักลงทุนรายย่อยด้วยการเข้าถึงตลาดหลายร้อยแห่งทั่วโลกอย่างทันใจ XTB เป็นบริษัทฟินเทคที่มีพื้นฐานมาจากความไว้วางใจ เทคโนโลยี และการสนับสนุนในด้านบริการลูกค้า ตั้งแต่ปี 2004 XTB Group ได้ขยายธุรกิจซึ่งขณะนี้ครอบคลุมตลาดหลัก 13 แห่งในยุโรป ละตินอเมริกา และเอเชีย โดยได้รับความเชื่อถือจากลูกค้ากว่า 703,000 ราย ด้วยการใช้แพลตฟอร์ม xStation และ xStation Mobile ที่ได้รับรางวัล XTB Group ได้ให้บริการซื้อขายเฉพาะตราสารอนุพันธ์มากกว่า 2,100 รายการ รวมถึง ETF และ CFD สำหรับ ฟอเร็กซ์ ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ หุ้น ETF และสกุลเงินดิจิทัล ด้วย X-Open Hub ทาง XTB ได้มอบเทคโนโลยีชั้นนำให้กับสถาบันการเงินทั่วโลก เพิ่มเติมที่: www.xtb.com
การเทรด CFDs บนพื้นฐานของเลเวอเรจนั้นมีความเสี่ยงสูง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน โปรดศึกษาให้แน่ใจว่าคุณได้ทำความเข้าใจในความเสี่ยงทั้งหมดก่อนตัดสินใจลงทุน